
Shangri-La Frontier ตอน 4

ตอนนี้เป็นเหมือนช่วงพักหายใจหลังจากแอ็กชันมาราธอนอันเข้มข้นในตอนก่อนๆ แต่ก็ยังคงทิ้งปมไว้ให้ชวนติดตามถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แง่มุมชีวิตของซันราคุ

ครั้งนี้เราได้เห็นซันราคุในชีวิตจริงนอกเกมหลักเป็นครั้งแรก ทักษะที่เขาได้มาจากเกมพังๆ กลับทำให้เขาได้เปรียบในเกมระดับสูงที่เขียนโปรแกรมมาอย่างดีเยี่ยมอย่าง Frontier ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะเกม VR ถ่ายทอดวิธีการคิดในโลกจริงของเขาเข้าสู่เกม ลองจินตนาการว่าการเล่นเกมพังๆ มันเหมือนกับการฝึกยกน้ำหนักที่โคตรหนัก และพอมาเล่น Frontier เขาก็แค่ปล่อยน้ำหนักทิ้ง แล้วลุยได้เลย!
เหตุผลน่ะเหรอ? เพราะเกมส่วนใหญ่เหล่านี้อิงกับเทคโนโลยี VR มันให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังถ่ายทอดทักษะจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้าสู่เกมโดยตรง การเล่นเกมที่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดจึงเป็นเหมือนการฝึกความแข็งแกร่งให้เขา พอได้เล่น Frontier เขาก็สามารถเชี่ยวชาญทุกสิ่งทุกอย่างได้ง่ายขึ้นเป็นกอง
ถึงแม้ตอนนี้จะค่อนข้างสงบ แต่ทีมอนิเมชันก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้แต่ฉากต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นเพียงการแนะนำตัวละครรอง ก็ยังทำอนิเมชันได้ดีกว่าซีรีส์อื่นๆ อีกหลายเรื่องในปัจจุบัน ขอคารวะทีมงานจริงๆ!
กลับสู่แก่นแท้วัฒนธรรมเกมเมอร์

สิ่งที่สนุกจริงๆ คือตอนนี้ได้แสดงให้เห็นถึงชีวิตของเกมเมอร์อย่างแท้จริง ซันราคุทำตัวเหมือนที่พวกเราทุกคนเป็น นั่นคือเขาเช็กฟอรัม เปรียบเทียบความสำเร็จของตัวเองกับคนอื่น และวางแผนก้าวต่อไปของตัวเอง เช่น เขากำลังจะย้ายไปเมืองถัดไปเพราะในช่วงฤดูร้อนจะมีผู้เล่นออนไลน์มากขึ้น
สิ่งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ข้อมูลและความลับไปพร้อมกับจังหวะของเขาเป๊ะๆ แต่ระวังไว้ให้ดี ชื่อเสียงมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ: ภาพหน้าจอของเขากับเพื่อนกระต่ายกำลังแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของพวกโทรลล์หรือแฟนๆ ที่คอยตามก่อกวนอย่างแน่นอน…
สรุปแล้ว: เป็นอีกตอนที่ยอดเยี่ยม ที่ทำให้คุณตั้งตารอการผจญภัยครั้งต่อไปได้อย่างใจจดใจจ่อ ไม่ได้มีฉากที่วุ่นวายมากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ดึงดูดให้เราติดตามได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว!